นกเงือกกรามช้าง/Wreathed Hornbill (Rhyticeros undulatus)

สิ่งที่น่าสนใจ :

ขนหางทั้งหมดมีสีขาว มีลายแถบสีดำพสดบริเวณเหนียง โคนปากเป็นรอยย่นหรือรอยหยัก ตัวผู้บริเวณกระหม่อมและขนยาวบนกระหม่อมสีน้ำตาลเข้ม เหนียงเป็นสีเหลือง เห็นโหนกแข็งได้ชัดเจน ตัวเมียมีหนังรอบดวงตาสีทึบไม่ฉูดฉาด โหนกแข็งเล็ก เหนียงสีฟ้า ตัวที่ยังไม่เต็มวัยเห็นรอยย่นที่โคนปากไม่ชัดเจน โหนกแข็งเล็กกว่า

ถิ่นอาศัย :

ชนิดย่อยพบครั้งแรกที่จังหวัดน่าน ทางภาคเหนือของประเทศไทย กระจายพันธุ์ในอินเดียตะวันออก จนถึงจีนด้านตะวันตกเฉียงใต้ เกาะอันดามัน และหมู่เกาะซุนดาใหญ่ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบทั่วไป พบตามป่าดงดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าดงดิบเขา และป่าชายเลน ตั้งแต่พื้นราบจนกระทั่งความสูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล

อาหาร :

ผลไม้ โดยเฉพาะลูกไทร ลูกหว้า ตาเสือ ยางโอน แมลง สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก เช่น กิ้งก่า หรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

พฤติกรรม :

พบเป็นฝูงเล็กๆ และอาจจะพบมากในบริเวณที่มีอาหารสมบูรณ์ ส่วนใหญ่จะเกาะตามยอดไม้ บินลงมายังพื้นดินเป็นครั้งคราวเพื่อไล่จิกเหยื่อซึ่งเป็นสัตว์ต่างๆ

สถานภาพปัจจุบัน :

สัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพุทธศักราช 2535 ,สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) จัดให้อยู่ในระดับ (LC) Least Concern คือ สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์

วัยเจริญพันธุ์ :

พฤติกรรมการผสมพันธุ์ของนกเงือกกรามช้างเป็นลักษณะเดียวกับนกเงือกชนิดอื่น ผสมพันธุ์ในช่วงปลายฤดูหนาวต่อฤดูร้อน หรือระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ทำรังตามโพรงของต้นไม้ที่เกิดตามธรรมชาติในระดับที่ค่อนข้างสูง หรือประมาณ 25-30 เมตร โดยวางไข่ครั้งละ 1-2 ฟอง ระยะเวลาในการฟักไข่ 31 วัน ตัวผู้จะออกหากินเลี้ยงตัวเมียและลูกในโพรงอีก 8-12 สัปดาห์ จากนั้นตัวผู้จะเจาะปากโพรงให้ตัวเมีย และลูกๆ ออกมาจากโพรง ซึ่งในช่วงนี้ตัวผู้ก็ยังคงทำหน้าที่หาอาหารมาป้อนตัวเมียและลูกๆ อยู่ จนกระทั่งลูกนกแข็งแรง บินได้ดี และหาอาหารเองได้ จากนั้นจะทิ้งรังไปรวมเป็นฝูงกับนกครอบครัวอื่นๆ ต่อไป

ขนาดและน้ำหนัก :

เป็นนกที่มีขนาดใหญ่มาก (100 ซม.)

ข้อมูลอ้างอิง :

รายละเอียดเพิ่มเติม

สถานที่ชม :


แก้ไขข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2560